อาจมีพรมแดนกั้นระหว่างประเทศและช่องแคบมะละกาทั้งหมดระหว่างลังกาวีและเกาะหลีเป๊ะ แต่คุณสามารถเดินทางระหว่างสองสถานที่แห่งนี้ได้โดยเรือข้ามฟาก อันที่จริงแล้วเกาะมาเลเซียถือว่าเป็นหนึ่งในจุดที่นักท่องเที่ยวเลือกที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งสำหรับเราก็โชคดีตรงที่อุทยานแห่งชาติทางทะเลตะรุเตานั้นมีเกาะหลีเป๊ะเป็นเกาะที่สวยงามแห่งหนึ่ง จึงทำให้เกิดการเดินทางระหว่างสองสถานที่แห่งนี้ขึ้นเพื่อบริการนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาเที่ยวชมสถานที่ทั้งสอง
คุณสามารถเดินทางในระยะทาง 43 กิโลเมตรได้ในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง 30 นาทีเท่านั้น คุณสามารถเลือกเดินทางโดยเรือข้ามฟากตรงจากลังกาวีไปยังเกาะหลีเป๊ะได้เลย โดยเฉพาะในช่วงฤดูท่องเที่ยวอย่างเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงต้นเดือนมิถุนายน แต่ถ้าหากเป็นช่วงมรสุมคุณอาจจะต้องใช้เวลาในการเดินทางขึ้นมายาวนานกว่าเป็นอย่างมาก
การขนส่ง | เวลา | ราคา | ตั๋ว |
---|---|---|---|
ลังกาวีไปเกาะหลีเป๊ะโดยเรือข้ามฟาก | 1 ชั่วโมง 30 นาที | 1000 บาท | จองตั๋วออนไลน์ |
ลังกาวีไปเกาะหลีเป๊ะโดยต่อเรือข้ามฟาก | 4 ชั่วโมง | 1200 บาท | จองตั๋วออนไลน์ |
ลังกาวีไปเกาะหลีเป๊ะโดยเดย์ทัวร์ | 24 ชั่วโมง | 6800 บาท | จองตั๋วออนไลน์ |
ลังกาวีไปเกาะหลีเป๊ะโดยเรือข้ามฟาก
เวลา – 1 ชั่วโมง 30 นาที (ไม่รวมเวลาที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง)
ราคา – 1000 บาท
ความสะดวกสบาย – 4/5
การเดินทางโดยเครื่องบินไม่ใช่วิธีเดียวที่จะใช้ในการเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างประเทศ การเดินทางโดยเรือข้ามฟากก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน และนี่คือสิ่งที่นักเดินทางทุกคนต้องทำเมื่อคุณต้องการที่จะเดินทางจากลังกาวีไปยังเกาะหลีเป๊ะ เพราะมันไม่ใช่เพียงการเดินทางข้ามจากเกาะหนึ่งไปยังอีกเกาะหนึ่ง แต่มันหมายถึงการเดินทางข้ามจากประเทศมาเลเซียไปยังประเทศไทยอีกด้วย
ซึ่งทั้งหมดนี้ก็อาจทำให้การเดินทางของคุณระหว่างสองสถานที่นี้ยุ่งยากขึ้นมาหน่อย แม้ว่าเรือข้ามฟากจะใช้เวลาในการเดินทางข้ามเพียง 1 ชั่วโมง 30 นาทีเท่านั้น แต่เนื่องจากต้องมีขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองที่ปลายทางของทั้งสองฝั่ง คุณจะต้องประทับตราหนังสือเดินทางเมื่อคุณเดินทางออกจากประเทศมาเลเซียที่ท่าเทียบเรือ และคุณก็จะต้องประทับตราบนหนังสือเดินทางอีกครั้งเมื่อคุณเดินทางมาถึงยังเกาะหลีเป๊ะของประเทศไทย
เรือข้ามฟากจะพาคุณจากหาดทรายที่ส่องแสงระยิบระยับของลังกาวีไปยังหาดทรายที่ส่องแสงระยิบระยับของเกาะหลีเป๊ะได้ในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง 30 นาที
เรือข้ามฟากจะออกเดินทางจากท่าเรือ Kuah ทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของลังกาวี หรือจากท่าเรือ Trlaga Harbor ทางฝั่งระวันตกเฉียงเหนือ อยากแรกเลยคือถ้าหากคุณเคยไปพักผ่อนในเมืองหลักของกัวห์ ตัวเลือกที่สองคือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ถ้าหากคุณต้องการที่จะออกเดินทางจากหาดทรายของปันไตเจอนังหรือเดินทางมายังสนามบินลังกาวีก่อนแล้วค่อยเดินทางต่อโดยเรือข้ามฟาก
เมื่อคุณเดินทางมาถึงยังเกาะหลีเป๊ะ คุณจะต้องเปลี่ยนจากเรือข้ามฟากไปยังเรือหางยาวเพื่อเดินทางไปขึ้นบก พวกเขาจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม 50 บาท เพื่อนำคุณไปส่งยังท่าเทียบเรือชั่วคราวบนหาดพัทยา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของไทยก็จะรอประทับตราเอกสารของคุณ อ๋อ! แล้วคุณก็อย่าลืมรีเซ็ตนาฬิกาของคุณด้วยล่ะ เวลาของลังกาวีนั้นต่างกับเวลาของเกาะหลีเป๊ะเพราะเนื่องจากอยู่ในเขตเวลาที่ต่างกัน
การขึ้นเรือข้ามฟากตรงจากลังกาวีไปเกาะหลีเป๊ะนั้นจะมีให้บริการในช่วงฤดูแล้งเท่านั้น เรือข้ามฟากจะหยุดให้บริการในระหว่างเดือนมิถุนายนจนถึงเดือนสิงหาคม ในทางกลับกันนักท่องเที่ยวมักจะเพิ่มขึ้นทันทีเมื่อฝนหยุดตก ดังนั้น เราแนะนำให้คุณเลือกจองตั๋วล่วงหน้าสำหรับการเดินทางดังกล่าวไว้จะดีที่สุด ซึ่งคุณสามารถทำการค้นหาวิธีการเดินทางผ่านเว็บไซต์ออนไลน์อย่าง 12Go.asia.
ลังกาวีไปเกาะหลีเป๊ะโดยต่อเรือข้ามฟาก
เวลา – 4 ถึง 6 ชั่วโมง
ราคา – 1200 บาท+
ความสะดวกสบาย – 3/5
หากเรือข้ามฟากที่วิ่งตรงจากลังกาวีไปเกาะหลีเป๊ะนั้นเต็ม หรือถ้าหากคุณเลือกเดินทางในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยวระหว่างเดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคมล่ะก็ คุณอาจจะต้องเดินทางโดยเรือข้ามฟากสองสายเข้าด้วยกัน การเดินทางโดยวิธีนี้จะทำให้คุณเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้นและใช้เวลานานขึ้นมากอีกด้วย อย่างไรก็ตามมันก็คือทางเลือกเดียวที่เหลืออยู่สำหรับการเดินทางจากลังกาวีไปเกาะหลีเป๊ะ
การเชื่อมต่อเรือข้ามฟากผ่านสตูลสามารถช่วยให้คุณนำทางไปยังเกาะหลีเป๊ะเมื่อเรือข้ามฟากไม่วิ่งตรงหรือเต็ม
เรือข้ามฟากลำแรกที่คุณต้องเลือกออกเดินทางจากท่าเรือ Kuah เพื่อไปยังสตูลของไทยนั้นจะออกเดินทางในช่วงเช้าและช่วงบ่ายเกือบทุกวัน โดยรวมแล้วการเดินทางจะใช้เวลาประมาณ 60 นาที ในระหว่างการเดินทางดังกล่าวคุณจะได้ชื่นชมในวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมาก เมื่อมองไปทางทิศตะวันตกคุณจะพบกับหาดทรายของเกาะตะรุเตา และจากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังท่าเรือปากบารา ที่นั่นคุณจะต้องผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองของไทยก่อนที่จะเดินทางต่อในลำดับต่อไป
เมื่อเดินทางมาถึงยังประเทศไทยแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องเดินทางต่อไปยังเกาะหลีเป๊ะ มีเรือข้ามฟากที่ให้บริการเดินทางระหว่างสตูลไปยังเกาะหลีเป๊ะที่สวยงามแห่งนี้ คุณสามารถเลือกเดินทางให้เร็วมายิ่งขึ้นด้วยเรือสปีดโบ๊ทของบริษัทบันดาหยาสปีดโบ๊ทหรือสโมสรเรือสปีดโบ๊ทสตูลปากบารา โดยใช้เวลาในการเดินทางเพียง 1 ชั่วโมง 30 นาทีเท่านั้นเพื่อไปยังเกาะหลีเป๊ะ
ลังกาวีไปเกาะหลีเป๊ะโดยเดย์ทัวร์
เวลา – ทั้งวัน
ราคา – 6800 บาท+
ความสะดวกสบาย – 4/5
การจัดทัวร์อย่าง Langkawi-Tour.com ที่พาคุณเดินทางจากลังกาวีไปเกาะหลีเป๊ะนั้นอาจจะมีราคาที่แพงสักหน่อย แต่ก็เต็มไปด้วยความสนุก แพคเก็จเหล่านี้จะมีเรือข้ามฟากที่ออกเดินทางจากลังกาวีของมาเลเซียมายังเกาะหลีเป๊ะของประเทศไทย ในแผนการเดินทางที่เต็มไปด้วยกิจกรรมมากมาย คุณแทบจะไม่สังเกตเห็นเลยว่าคุณกำลังเดินทางจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำตื้น ว่ายน้ำในป่า เที่ยวชายหาด และอาหารกลางวันแบบไทย ๆ ที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปตลอดทาง
สำหรับค่าใช้จ่ายนั้นจะเริ่มต้นที่ประมาณ 6,800 บาทต่อคน คุณสามารถรอให้พวกเค้ามารับที่โรงแรมใดก็ได้ในฝั่งลังกาวีของมาเลเซียและเดินทางไปพร้อมกับกิจกรรมสนุกสนานตลอดทั้งทางไปจนถึงเกาะหลีเป๊ะของไทย ตัวเลือกนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุณควรพิจารณา หากคุณอยากที่จะท่องเที่ยวและสำรวจจุดไฮไลท์ทั้งหมดของเกาะหลีเป๊ะได้ในวันเดียว
สำหรับชาวบ้านส่วนใหญ่พวกเขาจะเลือกเดินทางโดยเรือข้ามฟากที่วิ่งตรงจากลังกาวีไปยังเกาะหลีเป๊ะเป็นประจำในช่วงฤดูท่องเที่ยว พวกเขาใช้เวลาเพียง 90 นาทีในการเปลี่ยนจากอีกเกาะเป็นอีกเกาะ ซึ่งเวลาที่เพิ่มเติมจากที่แจ้งไปข้างต้นนั้นก็จะขึ้นอยู่กับการประทับตราเข้าประเทศของทั้งสองประเทศปลายทางนั่นเอง แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกเดินทางโดยวิธีใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นเรือข้ามฟากทางตรง เรือเดย์ทัวร์ หรือเรือข้ามฟากต่อ คุณก็จะสนุกสนานและเพิลดเพลินไปกับเกาะหลีเป๊ะที่สวยงามในทริปนี้แน่นอน!
คำถามในการเดินทางจากลังกาวีไปเกาะหลีเป๊ะ
การเดินทางโดยเรือข้ามฟากตรงจากลังกาวีไปยังเกาะหลีเป๊ะนั้นเป็นวิธีที่ถูกที่สุด เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 1,260 บาทต่อคนเท่านั้น เพราะเนื่องจากเรือข้ามฟากต่อนั้นคุณจะต้องจองตั๋วถึงสองใบกับสองบริษัทที่แยกจากกันจึงทำให้ราคานั้นสูงกว่า ในขณะที่เรือเดย์ทัวร์นั้นจะมีราคาที่สูงที่สุดในการเดินทางจากลังกาวีไปเกาะหลีเป๊ะ วิธีที่ดีที่สุดในการค้นหาวิธีการเดินทางระหว่างสองสถานที่นี้คือ การใส่วันที่คุณต้องการจะเดินทางลงไปในเว็บไซต์ 12Go.asia และจองตั๋วไว้ล่วงหน้าให้ได้มากที่สุดจะดีที่สุด
การเดินทางโดยเรือข้ามฟากตรงระหว่างลังกาวีไปเกาะหลีเป๊ะนั้น สามารถทำให้คุณสามารถเปลี่ยนจากแผ่นดินของมาเลเซียไปกับหาดทรายของประเทศไทยได้ในเวลาเพียง 90 นาทีเท่านั้น แต่นั่นเป็นเพียงเวลาเดินทางทางน้ำเท่านั้น เนื่องจากคุณเดินทางระหว่างสองประเทศด้วยกัน จึงจะมีการผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ที่สามารถเพิ่มเวลาในการรอบนท่าเทียบเรือทั้งสองแห่งได้ ทำให้เวลาการเดินทางทั้งหมดในคือ 2 – 3 ชั่วโมง
แน่นอนว่าการเดินทางจากเกาะหนึ่งไปยังอีกเกาะหนึ่งได้ก็จะต้องใช้เรือข้ามฟากในการเดินทาง มีบริษัทเรือข้ามฟากที่ให้บริการระหว่างสองเส้นทางนี้เป็นจำนวนมาก แต่โดยบริษัทหลายแห่งนั้นไม่ได้มีการให้บริการตลอดทั้งปี พวกเขามีเรือข้ามฟากให้บริการในช่วงฤดูท่องเที่ยวเท่านั้น คือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนมิถุนายน เรือข้ามฟากขนาดใหญ่ที่ทันสมัย พร้อมด้วยพื้นที่ดาดฟ้าสำหรับการนั่งเล่นและดื่มด่ำไปกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามในระหว่างการเดินทางนี้ ทำให้เป็นประสบการณ์เดินทางที่น่าประทับใจ เมื่อคุณเดินทางมาถึงยังพื้นที่ใกล้เกาะหลีเป๊ะแล้ว คุณจะต้องเปลี่ยนไปขึ้นเรือหางยาวต่อเพื่อเข้าฝั่ง ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มซึ่งส่วนใหญ่มักจะไม่รวมในตั๋วอยู่ที่ 50 บาทด้วยกัน คุณจึงควรเตรียมค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไว้ให้พร้อม!
ใช้เวลาเพียง 90 นาทีเท่านั้นในการเดินทางจากลังกาวีมายังเกาะหลีเป๊ะโดยเรือข้ามฟาก แต่อาจจะมีการเพิ่มเวลาสักเล็กน้อยสำหรับการผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและต่อเรือหางยาวเพื่อเดินทางเข้าไปยังชายฝั่ง หรือถ้าเป็นการเดินทางโดยเรือข้ามฟากต่อจากสตูลไปยังเกาะหลีเป๊ะ ครั้งแรกจากลังกาวีมาสตูลจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และต่อด้วยเรือจากสตูลไปเกาะหลีเป๊ะด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 30 นาทีด้วยกัน
โดยปกติแล้วคุณสามารถซื้อตั๋วเรือข้ามฟากตรงจากลังกาวีไปเกาะหลีเป๊ะได้ในราคาประมาณ 1,000 บาท อย่างไรก็ตาม หากคุณจองตั๋วล่วงหน้าบน 12Go.asia คุณอาจได้ราคาที่ถูกกว่าเล็กน้อยอีกทั้งยังลดปัญหาที่ว่าตั๋วเรือข้ามฟากตรงนั้นจะเต็มอีกด้วย และต้องรวมค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่อด้วยเรือหางยาวเพื่อไปยังฝั่งของเกาะหลีเป๊ะอยู่ที่ 50 บาท และค่าธรรมเนียมแรกเข้าสำหรับเกาะไทยอีกอยู่ที่ประมาณ 200 บาทต่อคน
เกาะหลีเป๊ะนั้นจะมีราคาแพงกว่าเกาะอื่น ๆ ของไทยเพียงเล็กน้อย ที่สิ่งของต่าง ๆ มีราคาสูงก็เพราะทั้งหมดนั้นต้องขนส่งโดยเรือจากแผ่นดินใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้นเกาะหลีเป๊ะนั้นมีพื้นที่จำกัดและกฎที่เข้มงวด เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ จึงทำให้ต้นทุนโรงแรมหรือที่พักมีราคาที่สูงขึ้น ถึงอย่างไรก็ตามก็ถือว่าเป็นราคาที่สมเหตุสมผลที่พอเข้าใจและยอมรับได้
โพสต์นี้มีประโยชน์ต่อคุณหรือไม่?
คลิกที่ดาวเพื่อให้คะแนนเรา
คะแนนเฉลี่ย: / 5. จำนวนโหวต: